TY - BOOK AU - พัทธนพล สีฟอง. TI - ระบบฐานข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกับการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดย พัทธนพล สีฟอง AV - QA 76.9.D3 พ543ร 2566 PY - 2566/// CY - กรุงเทพฯ PB - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ KW - สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร KW - ฐานข้อมูล KW - การจัดการฐานข้อมูล N1 - บทที่ 1 บทนำ -- 1.1 ความสำคัญและที่มาของคำถามวิจัย -- 1.2 คำถามวิจัย -- 1.3 วัตถุประสงค์ของการวิจัย -- 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากงานวิจัย -- 1.5 นิยามศัพท์ -- บทที่ 2 การทบทวนวรรณกรรม แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง -- 2.1 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 -- 2.2 รายงานการประชุมคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในกระบวนการเลือกตั้ง การเลือก หรือการออกเสียงประชามติ ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 -- 2.3 แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง -- 2.3.1 แนวคิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน -- 2.3.2 แนวคิดด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ -- 2.3.3 แนวคิดเกี่ยวการจัดทำฐานข้อมูล -- 2.3.4 แนวคิดด้านการพัฒนาระบบสารสนเทศ -- 2.3.5 แนวคิดเกี่ยวกับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) -- 2.3.6 แนวคิดเกี่ยวกับธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ -- 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง -- บทที่ 3 วิธีการวิจัย -- 3.1 กรอบแนวคิดการวิจัย -- 3.2 ระเบียบวิธีวิจัย -- 3.3 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา -- 3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย -- 3.5 วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล -- บทที่ 4 ผลการศึกษาและอภิปรายผล -- 4.1 ระบบฐานข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -- 4.1.1 การจัดทำระบบฐานข้อมูลของของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -- 4.1.2 การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น -- 4.2 ผลการวิเคราะห์การสัมภาษณ์ -- 4.2.1 ระบบฐานข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในปัจจุบัน -- 4.2.2 ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาระบบฐานข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อใช้ในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น -- 4.2.3 ข้อเสนอและแนวทางการพัฒนา -- 4.3 สรุปผลการสัมภาษณ์ -- บทที่ 5 สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ -- 5.1 สรุปผลการศึกษา -- 5.1.1 ปัจจัยด้านผู้บริหารระดับสูง -- 5.1.2 ปัจจัยด้านบุคลากร -- 5.1.3 ปัจจัยด้านงบประมาณ -- 5.1.4 ปัจจัยด้านกฎหมายและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล -- 5.1.5 ปัจจัยด้านเครื่องมือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ -- 5.2 การวิเคราะห์ตีความข้อค้นพบจากการศึกษา -- 5.2.1 ปัจจัยด้านผู้บริหารระดับสูง -- 5.2.2 ปัจจัยด้านบุคลากร -- 5.2.3 ปัจจัยด้านงบประมาณ -- 5.2.4 ปัจจัยด้านกฎหมายและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล -- 5.2.5 ปัจจัยด้านเครื่องมือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ -- 5.3 การอภิปรายผลการศึกษา -- 5.4 ข้อเสนอแนะจากการศึกษา -- 5.5 ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป -- 5.6 ข้อจำกัดในการศึกษา N2 - การศึกษาเรื่อง "ระบบฐานข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกับการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น" มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตลอดจนเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการทำงานดังกล่าวเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการศึกษาใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ด้วยวิธีสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และนำมาสรุปผลการวิจัยในรูปแบบเชิงพรรณนา (Descriptive Research) โดยเลือกกลุ่มงานทะเบียนประวัติและสถิติ สำนักบริหารงานกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นพื้นที่ในการศึกษา มีประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 6 คน ประกอบกับการวิจัยเอกสาร (Documentary Research) ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ผลการศึกษาพบว่า ระบบฐานข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในปัจจุบันเป็นเพียงระบบฐานข้อมูลที่ใช้ในการบันทึกจัดเก็บข้อมูลไว้เพียงเท่านั้น ยังไม่สามารถนำเข้าข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานขอตรวจสอบเพื่อประมวลผลและรายงานออกมาได้ ส่งผลทำให้เกิดความล่าช้าในการตรวจสอบข้อมูลและรายงานผลให้หน่วยงานขอตรวจสอบทราบ โดยมีปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับระบบฐานข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 5 ปัจจัย ได้แก่; 1) ปัจจัยด้านผู้บริหารระดับสูง จำเป็นจะต้องจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับภารกิจหลัก 2) ปัจจัยด้านบุคลากร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานยังไม่มีทักษะหรือความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 3) ปัจจัยด้านงบประมาณ งบประมาณที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศส่วนใหญ่เป็นโครงการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดทำระบบสนับสนุนฝ่ายนิติบัญญัติ 4) ปัจจัยด้านกฎหมายและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ยังไม่มีกฎระเบียบรองรับการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามอย่างชัดเจน และยังมีความกังวลในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบุคคลสำคัญ และ 5) ปัจจัยด้านเครื่องมือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบมีอายุการใช้งานมากและล้าสมัยไม่เท่าทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป จากการศึกษาเรื่องดังกล่าว มีข้อเสนอแนะ ดังนี้ 1) ผู้บริหารระดับสูงจะต้องสนับสนุนการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม โดยสรุปปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน และร่วมมือกับหน่วยงานนอกเพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลของสำนักงาน 2) พัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้นให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยให้สำนักสารสนเทศและสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจัดฝึกอบรม และฝึกอบรมทักษะขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง 3) แต่งตั้งคณะกรรมการธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance Council) หรือคณะทำงานบริการข้อมูล (Data Steward Team) โดยแต่งตั้งจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ มีผู้บริหารระดับสูงเป็นประธาน และแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกร่วมเป็นองค์คณะ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและโปร่งใส และ 4) การพัฒนาระบบฐานข้อมูล จะต้องเป็นรูปแบบข้อมูลที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งสำนักงาน และเป็นไปตามแนวทางการจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ (Government Data Catalog: GD Catalog) โดยร่วมมือกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ในการจัดทำข้อมูลให้เป็นไปตามมาตรฐาน และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้อย่างปลอดภัย ER -